กษัตริย์กัมพูชา เป็นตำแหน่งที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมอย่างยิ่งในประเทศกัมพูชา ตลอดระยะเวลาหลายพันปี ประวัติศาสตร์ของกษัตริย์กัมพูชามีการเปลี่ยนแปลงและพัฒนาไปอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่สมัยก่อตั้งอาณาจักรฟูนันจนถึงปัจจุบัน ปัจจุบัน กษัตริย์กัมพูชา คือ สมเด็จพระนโรดมสีหนุซึ่งเป็นที่เคารพนับถือของประชาชน

ในสมัยของอาณาจักรเขมรโบราณ กษัตริย์จะถือว่าเป็นตัวแทนของพระเจ้า มีหน้าที่ในการปกครองและควบคุมความเป็นอยู่ของประชาชน ทั้งในด้านเศรษฐกิจ สังคม และศาสนา การปกครองของกษัตริย์จะเป็นไปตามหลักธรรมของศาสนาพุทธ ซึ่งมีการบันทึกในตำราโบราณต่าง ๆ ว่ากษัตริย์ต้องมีความเมตตาและยุติธรรม

ในช่วงปีที่ 802 พระเจ้าชัยวรมันที่ 2 ได้ก่อตั้งอาณาจักรเขมรขึ้น ด้วยการรวมกลุ่มชาติกำเนิดต่าง ๆ เข้าด้วยกัน สร้างความเข้มแข็งให้กับอาณาจักร ทางด้านวัฒนธรรมและสถาปัตยกรรม รวมทั้งการสร้างปราสาทนครวัดซึ่งเป็นสัญลักษณ์ที่ยิ่งใหญ่ของกัมพูชา กษัตริย์กัมพูชา ในยุคนั้นจึงได้รับการยกย่องและเคารพอย่างสูงในฐานะผู้สร้างชาติ

ต่อมาผ่านการเปลี่ยนแปลงทางการเมือง กษัตริย์กัมพูชายังต้องเผชิญกับวิกฤตต่าง ๆ เช่น การรุกรานจากประเทศเพื่อนบ้านและเหตุการณ์ที่นำไปสู่วิกฤตสังคมในศตวรรษที่ 20 อย่างเช่น สงครามกลางเมืองและการปกครองแบบเขมรแดง ซึ่งทำให้กษัตริย์ต้องหนีออกนอกประเทศ เพื่อหาหนทางฟื้นฟูชาติกลับมาในภายหลัง

แต่จนกระทั่งปี 1993 กษัตริย์กัมพูชาก็กลับคืนสู่อำนาจภายใต้ระบอบรัฐธรรมนูญ โดยมีพระราชอำนาจที่ถูกระบุไว้อย่างชัดเจนและมีกฏหมายการเมืองที่ช่วยให้สามารถปกครองประเทศได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น สมัยนี้ กษัตริย์มีบทบาทในการส่งเสริมวัฒนธรรมและการศึกษาในประเทศ

การส่งเสริมการท่องเที่ยวในประเทศกัมพูชายังคงดำเนินต่อไป โดยเฉพาะการส่งเสริมปราสาทนครวัดและอารามอื่น ๆ ซึ่งเป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่มีความสำคัญและประวัติศาสตร์ที่สำคัญของประชาชาติ การท่องเที่ยวกัมพูชา จึงเติบโตอย่างรวดเร็ว พร้อมกับการพัฒนากระบวนการสื่อสารและเทคโนโลยีระหว่างประเทศ

ในส่วนของทิศทางเศรษฐกิจ กษัตริย์กัมพูชายังมุ่งมั่นที่จะผลักดันให้เศรษฐกิจของประเทศเติบโต โดยการดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศ ทั้งการลงทุนด้านการเกษตร อุตสาหกรรม และการบริการ ซึ่งจะช่วยยกระดับคุณภาพชีวิต ความเป็นอยู่ของประชาชนในกัมพูชาให้ดียิ่งขึ้นในอนาคตบทบาทและความสำคัญของกษัตริย์กัมพูชากษัตริย์กัมพูชามีบทบาทสำคัญในการสร้างสันติภาพและความสามัคคีในประเทศ ในช่วงเวลาที่ประเทศเผชิญกับความยุ่งเหยิงทางการเมืองและสังคม กษัตริย์เป็นสัญลักษณ์ของความเป็นหนึ่งเดียว และเป็นแรงบันดาลใจให้ประชาชนสามารถฟันฝ่าปัญหาไปได้ ทั้งยังส่งเสริมวัฒนธรรมและประเพณีต่าง ๆ ของประเทศให้คงอยู่และพัฒนาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในด้านการศึกษาที่มุ่งเน้นการสร้างอนาคตที่ดีให้แก่เยาวชนของชาติ