YouTube Studio ก็คือ เครื่องมือตัดต่อคลิปของ YouTube นั่นเองนะคะ และตอนนี้ YouTube Studio ก็ได้ทำการเพิ่มฟีเจอร์ การแก้ไขพ็อดแคสต์เข้ามาแล้วค่ะ ซึ่งก็เป็นไปตามนโยบายแนวทางใหม่ของทาง YouTube ที่ต้องการจะขยาย เพื่อมาจับตลาดพ็อดแคสต์ (Podcast) ให้มากขึ้นนั่นเองค่ะ และยังจะเพิ่มฟีเจอร์ฟังพ็อดแคสต์ เข้ามาในแอพ YouTube Music อีกด้วยนะคะ

พอดแคสต์ (Podcast) คือ คอนเทนต์ประเภทหนึ่งที่คล้ายกับการจัดรายการวิทยุโดยจะมีผู้ดำเนินรายการเพียงคนเดียวหรือหลายคนมาแชร์ความรู้และประสบการณ์ในด้านต่าง ๆ ในรู้แบบคลิปเสียง ทำให้พอดแคสต์กลายมาเป็นที่นิยมเพราะสามารถฟังเนื้อหาดี ๆ ไปพร้อมกับการทำกิจกรรมต่าง ๆ ได้นั่นเอง

พอสแคสต์คือรายการวิทยุผ่านเสียงที่ได้รับการพัฒนามาก่อน Clubhouse หลายปี เพียงแต่ว่าพอสแคสต์เป็นรายการแบบอัดไว้ล่วงหน้าที่สามารถย้อนกลับมาฟังเมื่อไหร่ก็ได้ แต่ Clubhouse เป็นรายการสดที่ผู้ฟังสามารถผู้คุยโต้ตอบกันได้ทันทีนั่นเอง

โดยในหน้าเว็บซัพพอร์ตของ YouTube ได้มีการอธิบายว่า รายการพ็อดแคสต์ในระบบคือ playlist ส่วนเนื้อหาในแต่ละตอนนั้น คือวิดีโอใน playlist นั่นเอง แต่ระบบจะเพิ่มหน้ารวมเนื้อหาพ็อดแคสต์เข้ามา เพื่อให้ผู้ใช้งานค้นหารายการที่ต้องการได้ง่ายขึ้นค่ะ

การสร้างพอดแคสต์ใน YouTube Studio

ดูวิธีสร้างพอดแคสต์โดยใช้ YouTube Studio และเพิ่มพอดแคสต์ลงใน YouTube Music ใน YouTube รายการพอดแคสต์คือเพลย์ลิสต์ และตอนของพอดแคสต์คือวิดีโอในเพลย์ลิสต์นั้น พอดแคสต์ควรมีเฉพาะตอนแบบเต็ม โดยเรียงตามลำดับที่ควรฟัง หากพอดแคสต์มีหลายซีซัน ให้ใส่ซีซันดังกล่าวไว้ในพอดแคสต์เดียวกัน

ครีเอเตอร์พอดแคสต์มีสิทธิ์ได้รับสิทธิพิเศษต่อไปนี้

* การ์ดการค้นหาอย่างเป็นทางการ ( search card )
* โอกาสที่จะปรากฏใน youtube.com/podcasts
* ป้ายในพอดแคสต์และวิดีโอ
* พอดแคสต์พร้อมให้ผู้ใช้ใน YouTube Music ฟัง

หมายเหตุ

* เพลย์ลิสต์บางรายการไม่มีสิทธิ์ใช้ฟีเจอร์พอดแคสต์ แม้ว่าคุณจะระบุให้เป็นพอดแคสต์ก็ตาม เนื้อหาที่ไม่มีสิทธิ์รวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียงเนื้อหาที่ครีเอเตอร์ไม่ได้เป็นเจ้าของ 
* YouTube.com/podcasts” ใช้งานได้ในสหรัฐอเมริกาเท่านั้น
* การรวมพอดแคสต์ในแอป YouTube Music กำลังจะพร้อมให้บริการแก่ครีเอเตอร์ในสหรัฐอเมริกา 

จุดเด่นที่สุดของ YouTube สำหรับผู้ใช้พ็อดแคสต์คงไม่ใช่เรื่องฟีเจอร์ ที่ทุกรายก็ไม่ต่างกันมากนักนะคะ แต่จะเป็นฐานผู้ใช้ YouTube จำนวนมาก ที่จะมีโอกาสฟังพ็อดแคสต์รายการใหม่ๆ ได้มากขึ้นนั่นเองค่ะ รวมถึงการเชื่อมโยงระหว่างรายการแบบเสียงล้วน และรายการแบบมีภาพด้วยค่ะ

ที่มา – Google Support, 9to5google