ไลโคปีน (Lycopene) คือ สารสีแดง ซึ่งถือเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ในกลุ่มของแคโรทีนอยด์ (Carotenoids) โดยส่วนมากแล้วจะพบในผักและผลไม้ โดยเฉพาะมะเขือเทศ  อย่างไรก็ตาม ก็ยังมีอาหารชนิดอื่นๆ ที่อุดมไปด้วยไลโคปีนไม่แพ้กันเลยนะคะ โดยไลโคปีนนั้น จะมีส่วนช่วยต้านอนุมูลอิสระ ลดความเสี่ยงในการเกิดโรคมะเร็งบางชนิด รวมถึงโรคหลอดเลือดสมอง และโรคหลอดเลือดหัวใจค่ะ นอกจากนั้นยังช่วยบำรุงผิวพรรณ ลดความดันโลหิตสูง และลดระดับไขมันในเลือดได้อีกด้วยเช่นกันค่ะ

 

 

 อาหารที่มีไลโคปีนสูง ได้แก่

 

 

1. ฝรั่ง

ฝรั่ง 100 กรัม มีไลโคปีน 5,204 ไมโครกรัมเลยนะคะ ซึ่งมีส่วนช่วยป้องกันมะเร็ง ป้องกันอาการท้องผูก โรคเลือดออกตามไรฟัน และปัญหาต่อมไทรอยด์ได้เป็นอย่างดีเลยค่ะ นอกจากนั้น ฝรั่งยังมีวิตามินเอ วิตามินซี วิตามินเค แคลเซียม แมกนีเซียม และโพแทสเซียมอีกด้วยนะคะ โดยเฉพาะวิตามินเอ ที่ดีต่อสุขภาพดวงตา ช่วยชะลอการเกิดต้อกระจก และการเสื่อมสภาพของเม็ดสี เรียกได้ว่าบำรุงสายตาได้ดีสุดๆเลยค่ะ

2. แตงโม

แตงโม เป็นแหล่งของวิตามินซี วิตามินเอ วิตามินบี 6 แคลเซียม แมกนีเซียม ฟอสฟอรัส โพแทสเซียม และไลโคปีน รวมถึงยังมีกรดอะมิโน และสารต้านอนุมูลอิสระอีกด้วยนะคะ ซึ่งแมกนีเซียม และโพแทสเซียมในแตงโมนั้น มีส่วนช่วยควบคุมความดันโลหิตสูงได้ดี ในขณะที่ไลโคปีนจะช่วยป้องกันมะเร็ง และยังช่วยส่งเสริมทำงานของหัวใจได้ดีอีกด้วย โดยแตงโม 100 กรัม มีไลโคปีนถึง 4,532 ไมโครกรัมเลยทีเดียวค่ะ

 

3. มะเขือเทศ

มะเขือเทศ นอกจากจะอุดมไปด้วยไลโคปีนแล้ว ยังอุดมไปด้วยวิตามินเอ วิตามินซี วิตามินเค รวมถึงแคลเซียม โพแทสเซียม และแมกนีเซียม กินแล้วมีส่วนช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ มะเร็งต่อมลูกหมาก และมะเร็งกระเพาะอาหารเรียกได้ว่าไลโคปีนมีส่วนช่วยชะลอการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็งได้ดี อีกทั้งวิตามินเคและแคลเซียมในมะเขือเทศยังดีต่อสุขภาพกระดูก นอกจากนั้นมะเขือเทศยังมีประโยชน์ต่อเส้นผม หัวใจ ดวงตา และไตอีกด้วยนะคะ โดยมะเขือเทศ 100 กรัม อุดมไปด้วยไลโคปีน 3,041 ไมโครกรัมค่ะ

 

4. มะละกอ

มะละกอ 100 กรัม อุดมไปด้วยไลโคปีน 1,828 ไมโครกรัม ซึ่งนอกจากไลโคปีนแล้ว ยังมีวิตามินเอ โฟเลต แคลเซียม แมกนีเซียม โพแทสเซียม โดยเฉพาะวิตามินซี ไฟเบอร์ และสารต้านอนุมูลอิสระ ที่มาช่วยลดการสะสมของคอเลสเตอรอลในหลอดเลือด อีกทั้งวิตามินซี ยังช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน ป้องกันโรคได้อีกด้วย นอกจากนั้นวิตามินเอ ยังมีส่วนช่วยบำรุงผิวและสายตาได้อีกด้วยค่ะ

5. เกรปฟรุต

เกรปฟรุต 100 กรัม มีไลโคปีน 1,419 ไมโครกรัม ซึ่งมีฤทธิ์ต้านเนื้องอก และต้านอนุมูลอิสระได้ดี อีกทั้งยังมีวิตามินซี มาช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน ต้านทานโรค และลดความรุนแรง ของสภาวะการอักเสบหลายๆ อย่าง เช่น โรคข้อเข่าเสื่อม โรคหอบหืด และโรคข้ออักเสบรูมาตอยด์ นอกจากนั้นเกรปฟรุตยังมีวิตามินเอ วิตามินบี 6 แคลเซียม ธาตุเหล็ก และแมงกานีสอีกด้วย

 

 

จะเห็นได้ว่าผลไม้ส่วนใหญ่จะมีประโยชน์เยอะเลยนะคะ มีวิตามินอยู่หลายตัวเลยในผลไม้ชนิดเดียว เพราะฉะนั้นเพื่อสุขภาพที่ดี ควรหันมาใส่ใจสุขภาพ ด้วยการทานผักและผลไม้ให้มากขึ้นนะคะ ร่างกายจะได้แข็งแรง ผิวพรรณจะได้สดใสค่ะ