10 อันดับ ร้านอาหารในประเทศไทยที่ยอดนิยมมากที่สุดในขณะนี้

 

 

1. Le Du

ร้าน Le Du ได้รับรางวัล Asia’s 50 Best Restaurants ที่เป็นการร่วมโหวตร้านอาหารที่ดีที่สุดในเอเชียของเชฟและเซียนอาหารชื่อดังอีกด้วย โดยจุดเด่นของร้านก็คือการนำเสนอ “ความเป็นไทย” จากทั้งสูตรอาหารโบราณที่ถูกคิดค้นมานานนับร้อยปีจากทั่วทุกภาค  และวัตถุดิบท้องถิ่นที่ถูกหลงลืมกันไปในโลกยุคปัจจุบันเข้าควบคู่กับกรรมวิธีการปรุงอาหารแบบสมัยใหม่  ผสมผสานกับความคิดสร้างสรรค์เข้าไปอย่างเต็มๆเพื่อสร้างเป็นเมนูอาหารไทยที่มีความแตกต่าง  แต่ยังคงรสชาติที่เข้มข้นเป็นเอกลักษณ์อย่างพิถีพิถัน

 

 

ที่ตั้ง : ร้าน Le Du (ฤดู) : สีลม ซอย 7 (ติด BTS ช่องนนทรี)
เวลาเปิดให้บริการ: 18:00 – 22:30
เบอร์โทร: 092 919 9969

2. R-Haan

ร้านอาหารไทย Fine Dining ภายใต้แนวคิดที่ว่า ‘ในน้ํามีปลา ในนามีข้าว’ แสดงให้เห็นความสมบูรณ์ของแผ่นดินไทย และยังได้นำเสนออาหารไทยสไตล์ต้นตำรับ ทั้งอาหารท้องถิ่นพื้นบ้านและอาหารชาววัง โดยใช้วัตถุดิบชั้นดีจากทั่วประเทศอีกด้วย
อาหารที่นี่แบ่งเป็นสามคอร์ส จัดเป็น สำรับเอก สำรับโท และสำรับตรี เช่น สำรับเอกจะเสิร์ฟ ขนมครกครีมต้มข่าคาร์เวียร์โครงการหลวงดอยอินทนนท์ มาให้ชิมรสเข้ม ๆ ผสมความคาวและหวานอย่างลงตัวก่อนจะตามด้วยเมนูอื่น ๆ โดยในแต่ละสำรับจะมีทั้งเครื่องคาว เครื่องหวาน เครื่องจิ้มและของหวานเสิร์ฟอย่างไทยโบราณ อีกสิ่งที่สำคัญคือความสมดุลในแต่ละสำรับที่จะต้องมีความพอดีของรสเปรี้ยว เค็ม เผ็ด ให้ลงตัว ถือเป็นความครบรสในเสน่ห์ของอาหารไทย

 

ที่ตั้ง : 131 ซอยสุขุมวิท 53 เขต วัฒนา กรุงเทพมหานคร
เวลาเปิด : 18.00 น.- 23.00 น.
โทรจองล่วงหน้า : 0-2059-0433

3. ศรณ์

ร้านอาหารใต้ใจกลางย่านสุขุมวิท ที่พร้อมเสิร์ฟตำรับความอร่อยของ คุณยอดขวัญ อยู่พุ่มพฤกษ์ เชฟมากฝีมือที่ใส่ Passion ใส่ใจทุกรายละเอียดของการทำอาหารลงไป สร้างอัตลักษณ์อาหารใต้ให้เป็นที่จดจำว่ามีความน่าสนใจไม่แพ้อาหารสัญชาติใดในโลก จากแรงบันดาลใจในการค้นพบวัตถุดิบท้องถิ่นภาคใต้ที่เริ่มสูญหาย ถูกนำมาครีเอทใหม่สู่เมนูจานหลักอีกครั้ง ด้วยการตามหาวัตถุดิบชั้นเลิศ พร้อมนำภูมิปัญญาท้องถิ่นมาประยุกต์ใช้ร่วมกับเทคนิคปรุงอาหารที่ทันสมัย ให้กลายเป็นเมนูสุดพิเศษที่เสิร์ฟในสไตล์ของ Fine Southern Cuisine คอร์สอาหารใต้แบบเรียงตามลำดับผสานเข้ากับการเสิร์ฟสำรับแบบไทยที่สามารถแบ่งกันทานกับข้าวสวยร้อน ๆ ได้ด้วย

 

ที่ตั้ง : สุขุมวิท 26
เวลาเปิด : อังคาร-ศุกร์ 18.00 – 23.00 น. เสาร์-อาทิตย์ 12.00 – 14.00น. / 18.00 – 23.00 น. (ปิดวันจันทร์)
โทรจองล่วงหน้า : 099-0811119

4. Baan Khanitha

ด้วยความหลงใหลในอาหารไทยที่มีคุณภาพสูงและความคาดหวังเพื่อความสะอาดการบริการและการตกแต่งที่จะเพลิดเพลินไปกับร้านอาหารไทยแท้ๆจึงทำให้นักออกแบบร้านไหมไทยชื่อดัง Khanitha Akaranitikul หันมาเปิดเป็นภัตตาคารแห่งแรก ‘บ้านขนิษฐา’ เมื่อวันที่ 4 พฤศจิกายน 2536 ในบ้านสุขุมวิทซอย 23 การออกแบบตกแต่งภายในถูกตกแต่งด้วยงานฝีมือโบราณอันวิจิตรงดงามประติมากรรมภาพวาดและต้นไม้เพื่อให้กลิ่นอายของไทยอบอุ่นและอบอุ่น อาหารไทยที่มีชื่อเสียงทำให้บ้านขนิษฐาเป็นร้านอาหารไทยที่ดีที่สุดและโดดเด่นที่สุดในกรุงเทพฯ ด้วยความอร่อยของรสที่เลือกเฉพาะวัตถุดิบที่สดใหม่และสะอาดที่สุดที่มีคุณภาพสูง เครื่องเทศไทยและกลิ่นสมุนไพรเพื่อรับรองประสบการณ์การรับประทานอาหารไทยแท้ๆ หลากหลายเมนูเพื่อตอบสนองความต้องการของแขกทุกท่าน และพนักงานที่ผ่านการฝึกอบรมมาเพื่อเข้าร่วมรายละเอียดทั้งหมดและข้อกำหนดพิเศษอื่น ๆ เพื่อป้องกันอาการแพ้อาหาร
บ้านขนิษฐา ร้านอาหารไทยดีกรีรางวัล “Bangkok’s Best Thai Restaurant” เป็นประกัน ความโดดเด่นในเมนูอาหารไทยโบราณที่หารับประทานยาก รวมทั้งรสชาติและกรรมวิธีการปรุงแบบไทยโบราณขนานแท้ วัตถุดิบคุณภาพสูงมีความสดใหม่จากทั้งไทยและนำเข้า ปัจจุบันบ้านขนิษฐาได้ขยายความอร่อยออกไปอีก 3 สาขา ได้แก่ สาขาบ้านสาทร ภายใต้การตกแต่งร้านด้วยภาพเขียนของศิลปินชื่อดัง สาขาบ้านสุขุมวิท 53 และสาขาบ้านริมน้ำเอเชียทีค ล่าสุดมีบ้านขนิษฐา ครูสอีกด้วย สนใจไปเช็กอินที่ร้านบ้านขนิษฐาสาขาไหนก็จัดไป รับรองอร่อยเด็ดจนต้องไปบ่อยๆ

 

 

พิกัด: 31 ซอยสุขุมวิท 53 ถนนสุขุมวิท แขวงพระโขนงเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพฯ 10110
เวลาเปิด – ปิด : จันทร์ – อาทิตย์ 11.00 – 22.30 น.
เว็บไซต์: www.baan-khanitha.com
เบอร์โทรศัพท์ : 088-249-8191 , 02-259-8530

5. Sala Rattanakosin

Sala Rattanakosin เป็นที่รู้จักกันดี ร้านที่มีวิวแม่น้ำดีที่สุดแห่งหนึ่งของกรุงเทพฯ ซึ่งก็คงจะไม่เกินจริงไปมากนัก โดยความประทับใจที่นี่เลยลงเอยที่วิวเป็นหลัก ทั้งวิววัดอรุณจากชั้นดาดฟ้าไม่ว่าจะช่วงพระอาทิตย์ตก หรือยามค่ำคืนแจ่มมากๆ เหมาะสำหรับมากับคนรัก เพื่อน และครอบครัวอย่างที่สุด คนจะแน่นที่สุดก็ตอนพระอาทิตย์ตกดินนี่เอง จนอาจทำให้ไม่มีที่นั่งได้ส่วนพนักงานบริการสุภาพและดีมาก ในส่วนของรสชาติอาหาร อาหารไทยที่นี่จะถูกเสิร์ฟมาหน้าตาดูดี สไตล์ฟิวชั่น เช่น น้ำพริกหนุ่ม ยำปูนิ่ม กระทงทองลาบหมู หรือปลากระพงสามรส เป็นต้น ส่วนเรื่องรสชาติไม่ต้องพูดถึง เพราะทุกคนจะได้ฟีลเหมือนกำลังนั่งทานอาหารไทยอยู่ในสมัยรัตนโกสินทร์เลยทีเดียวห้องอาหารศาลารัตนโกสินทร์ ตั้งอยู่ที่โรงแรมศาลารัตนโกสินทร์ ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ฝั่งตรงข้ามกับพระปรางค์วัดอนุณถือว่าวิวโดดเด่นมากๆ  ทางร้านมีโต๊ะไม่เยอะ แนะนำให้โทรจองล่วงหน้าดีที่สุด

 

 

พิกัด : 39 ซ.ท่าเตียน ถ.มหาราช เขตพระนคร กรุงเทพฯ
เปิดบริการ : 07.30 – 22.30 น.
เว็บไซต์: www.salahospitality.com
เบอร์โทรศัพท์ : 0-2622-1388

6. Ruen Mallika

เรือนมัลลิการ์ ยินดีและภาคภูมิใจที่ได้เป็นหนึ่งในร้านอาหารไทยคุณภาพที่ได้รับการแนะนำจาก Michelin Guide Bangkok 2018 ในส่วนของ Bib Gourmand เรือนมัลลิการ์ ร้านอาหารไทยคุณภาพที่เกิดจากความตั้งใจของ อ.มัลลิการ์ ธรรมวัฒนะ ที่ต้องการให้ทุกท่านได้สัมผัสเสน่ห์แห่งวัฒนธรรมไทยที่สมบูรณ์แบบ เริ่มจากความงดงามของเรือนไม้สักไทยโบราณสมัยรัตนโกสินทร์อายุกว่า 200 ปี การแต่งกายของพนักงานด้วยผ้าฝ้ายพื้นเมือง พร้อมสำรับอาหารไทยแท้ที่พิถีพิถันในการปรุงแต่งอย่างวิจิตรสวยงามกว่า 100 สำรับ ด้วยวัตถุดิบของไทยที่ได้มาตรฐาน สด สะอาด และมีประโยชน์ต่อสุขภาพ อาทิ ฉันชื่อบุษบา เมนูดอกไม้ทอดกรอบ ที่เลือกสรรดอกไม้ไทยปลอดสารกว่า 8 ชนิด แกงส้มชะอมกุ้งสด รสเข้มข้นจัดจ้านหอมกรุ่นกลิ่นเครื่องแกงไทย ส้มตำหัวปลี คัดเฉพาะกาบอ่อนของหัวปลีกล้วยน้ำหว้า คลุกเคล้าด้วยสารพันเครื่องสมุนไพรไทยพร้อมปรุงรสชาติด้วยเครื่องปรุงสูตรเฉพาะ อ.มัลลิการ์ จนได้ส้มตำหัวปลีรสเข้มจัดจ้าน สมเป็นสำรับไทยจานโปรดในดวงใจผู้ที่มาเยือน เรือนมัลลิการ์” เนื่องจากเป็นร้านอาหารไทยที่ให้สัมผัสถึง รสชาติของอาหารไทยคุณภาพเยี่ยม ซึ่งสืบทอดตำนานฝีมือการทำอาหารรสเลิศ จากตำรับเลื่องชื่อพร้อมเก็บเกี่ยวสรรพเสน่ห์ แห่งวัฒนธรรมไทย อย่างสมบูรณ์แบบตามวิถีของ กินอย่างไทย อยู่อย่างไทย ให้สัมผัสกลิ่นอายของวัฒนธรรมไทย ตั้งแต่ก้าวแรกที่เข้ามาเยือน เริ่มต้นจากรสชาติเข้มข้นจัดจ้านของ อาหารไทยที่ผ่านการปรุงแต่งด้วย วัตถุดิบชั้นเยี่ยม อย่างพิถีพิถัน ตลอดจนการให้บริการ รวมถึงบรรยากาศที่แวดล้อม อาหารทุกจานเสิร์ฟด้วยภาชนะศิลาดลซึ่งเป็น เครื่องปั้นดินเผาสีเขียว พร้อมประดับจัดแต่งจานด้วยผัก ผลไม้ แกะสลักลวดลายให้เป็นดอกไม้ ใบไม้อย่างวิจิตรบรรจง เสิร์ฟขันน้ำลอยดอกมะลิสำหรับลูกค้า ใช้ล้างมือก่อน รับประทานอาหาร เครื่องแต่งกายของพนักงาน จะใช้ผ้าแถบคาดอกพร้อมคลุมไหล่ นุ่งผ้าถุงทอมือลายพื้นเมือง ซึ่งมีลักษณะคล้ายกับชุดลาวพวน เรือนมัลลิการ์ขลังไปด้วยบรรยากาศของวันวานอันแสนอบอุ่น ด้วยตัวร้านตั้งอยู่ในเรือนไทยอายุกว่า 200 ปี ที่นี่เสิร์ฟอาหารไทยรสชาติดั้งเดิมตามตำรับโบราณ เชื่อได้เลยว่าคุณจะต้องประทับใจกับการแกะสลักผักผลไม้ที่แสนวิจิตรสวยงาม ในด้านรายการอาหารของเรือนมัลลิการ์มีความหลากหลายโดยมีเมนูอยู่ในลิสต์มากกว่าร้อยรายการ ทั้งจานต้นตำรับอย่างต้มยำกุ้ง แกงเขียวหวาน อาหารจานผัด ไปจนถึงน้ำพริกเครื่องจิ้มต่าง ๆ อาหารจานเด่นที่เป็นลายเซ็นต์ของทางร้านคือยำดอกไม้ เรือนมัลลิการ์ยังมีชื่อเสียงในเรื่องของการอนุรักษ์วิถีการกินอยู่อย่างโบราณ และลูกค้ายังสามารถสนุกสนานไปกับการลองเปลี่ยนเครื่องแต่งกายแบบไทย ๆ พร้อมนั่งล้อมวงรับประทานอาหารอีกด้วย

 

 

ที่ตั้ง : 189 ซอยสุขุมวิท 22 กรุงเทพฯ
เบอร์โทร : 084-088-3755 หรือ info@ruenmallika.com
เว็บไซต์ : www.ruenmallika.com
facebook : facebook.com/RuenMallika

7. เจ๊ไฝ

ร้าน เจ๊ไฝ ประตูผี ร้านอาหารริมทางขนาดเล็กที่เปิดมากว่า 70 ปี โดยมีเชฟหลักทำหน้าที่ต้ม ผัด แกง ทอด เพียงคนเดียว นั่นก็คือ เจ๊ไฝ – นางสุภิญญา จันสุตะ ที่ตอนนี้กลายเป็นเชฟระดับมิชลินสตาร์ สตรีทฟู้ดเจ้าดังในกรุงเทพ ที่บางครั้งอาจจะต้องต่อคิวยาวเหยียด เพื่อที่จะเข้าไปลิ้มรสฝีมือของเจ๊ไฝ ไม่ว่าจะเป็น ไข่เขียวปู , ราดหน้าทะเล ,โจ๊กแห้ง , และปูผัดผงกะหรี่ ซึ่งเป็นสูตรความอร่อยที่ส่งตรงจากรุ่นพ่อถึงรุ่นลูก เมื่อ 70 ปีก่อน และเจ๊ไฝยังได้พัฒนาสูตรให้อร่อยยิ่งขึ้นจนกลายเป็นอาหารเตาถ่านในตำนานอีกด้วย

 

ที่ตั้ง : ถนน มหาไชย กรุงเทพมหานคร (ถัดจากร้านผัดไทยประตูผี ร้านอยู่ใกล้ๆ กับแยกสำราญราษฎร์)
เปิดวันจันทร์ – เสาร์ เวลา 13:30 – 01:30 น.
เบอร์โทร : 02-223-9384

8. ลูกไก่ทอง

ร้านลูกไก่ทอง เป็นร้านอาหารที่ใช้ฝีมือ เป็นเอกลักษณ์โดดเด่นของตนเองไม่เหมือนใคร โดยมีเแม่ลูกเข้าครัวปรุงอาหารด้วยจิตวิญญาณอย่างแท้จริง การคิดค้นเสาะแสวงหาวัตถุดิบที่ดีเลิศมาปรุงรสชาติในแต่ละจาน ทำให้ทุกๆคำที่คุณทานคือทุกจานที่เราใส่ใจ เสมือนคุณคือหนึ่งในครอบครัวของเรา ร้านอาหารไทย จีน บรรยากาศสุดพรีเมี่ยม ใครกำลังมองหาร้านอาหารสำหรับครอบครัว เราขอบอกเลยว่าร้านนี้เหมาะมาก เพราะเมนูอาหารมีหลาหลายสไตล์

 

 

พิกัด  Icon Siam ชั้น 6 , โทร 02-288-0955
https://goo.gl/maps/aqPuMpW9ShXSonMH7
Chic Republic เลียบด่วนเอกมัย-รามอินทรา , โทร 02-515-0343
https://g.page/r/CXR6hORk49lHEAE
Chic Republic บางนา , โทร 02-136-6348
https://g.page/r/CReDeya_mPJ-EAE
The EmQuartier ชั้น 6 , โทร 02-003-6301
https://g.page/r/CS2CmRSl8wDXEAE
Siam Paragon ชั้น 4 , โทร 02-610-6701
https://g.page/r/Cf7jDtpvCUWIEAE
สนามบินดอนเมือง อาคาร 2 ชั้น 4 , โทร 02-504-3605
(สาขาสนามบินดอนเมืองปิดให้บริการชั่วคราว)

9. Mezzaluna

ห้องอาหาร Mezzaluna ตั้งอยู่บนชั้น 65 ของตึก Tower Club ของโรงแรมเลอบัวสเตททาวเวอร์ ถนนสีลม เขตบางรัก หลังจากที่เปลี่ยนมือจากเชฟฝาแฝด Thomas และ Mathias Sühring มาเป็นเชฟชาวญี่ปุ่น ริวกิ คาวาซากิ (Ryuki Kawasaki) ทำให้กลิ่นอายอาหารของ Mezzaluna เปลี่ยนแปลงไป แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ไม่ดี เชฟริวนำเอากลิ่นอายของวัตถุดิบอาหารญี่ปุ่นมาประสานกับเทคนิคอาหารฝรั่งเศส เชฟริวกิผ่านประสบการณ์ทำอาหารกับเชฟชื่อดังมาแล้วมากมาย อาทิ โจเอล โรบูชง, พอล โบคุส และปิแอร์ กานเยร์ ทำให้เขาได้เทคนิคของการทวิสต์นำรสชาติของญี่ปุ่นเข้ามาอยู่ในอาหารฝรั่งเศสได้อย่างแนบเนียน เมซซาลูน่าเสิร์ฟเฉพาะ Tasting Menu มีให้เลือก 2 เซ็ต 4 และ 7 คอร์ส โดยในแต่ละวันเมนูอาหารจะเปลี่ยนไปตามไอเดียและวัตถุดิบที่มี

 

ที่ตั้ง : ห้องอาหาร Mezzaluna ชั้น 65 โรงแรมเลอบัว ถนนสีลม
เปิดให้บริการ วันอังคาร-วันอาทิตย์ เวลา 18.00-01.00 น.
โทร : 0-2624-9999

10. มหาสาร

ร้านที่สายเนื้อไม่ควรพลาดค่ะ ร้านเล็ก ๆ บรรยากาศอบอุ่น พร้อมเมนูเรียบ ๆ ไม่หวือหวา แต่ไฮไลท์เนื้อสัญชาติไทยที่ย่างบนเตาถ่านได้อย่างดีเยี่ยม ได้ครบทุกรสสัมผัสของเนื้อ เมนูเด็ดคือข้าวหน้าเนื้อสไตล์พิคาน่าใช้เนื้อที่มีความเหนียวเล็กน้อยแล่บาง ๆ อร่อยเด็ด หรือเนื้อน่องลายที่มีเอ็นแทรกเอาไปตุ๋นจนแทบจะละลายในปาก ทานคู่น้ำจิ้มแจ่วสุดแซ่บถูกใจคนไทย ด้วยความที่คุณภาพคับจานในราคาคุ้มค่า และร้านมีแค่ 4 โต๊ะเท่านั้นค่ะ