บทความนี้จะมานำเสนอเกี่ยวกับ 10 อันดับจุดชมใบไม้เปลี่ยนสีญี่ปุ่น 2024 กันนะคะใบไม้เปลี่ยนสีที่ญี่ปุ่น คือฤดูแสนโรแมนติกเลยนะคะ เมื่อใบไม้เริ่มผลัดเปลี่ยนจากสีเขียวสู่สีเหลืองส้ม แดง บรรยากาศจึงเต็มไปด้วยความโรแมนติก จึงเป็นฤดูกาลที่ผู้คนมักออกเดินทางไปสัมผัสบรรยากาศใบไม้เปลี่ยนสีญี่ปุ่นกันนั่นเองค่ะ
ช่วงเวลาใบไม้เปลี่ยนสีที่ญี่ปุ่นแต่ละเมือง 2024 เสน่ห์ของใบไม้เปลี่ยนสีญี่ปุ่น มีบรรยากาศความสวยงามในแต่ละเมือง และช่วงเวลา ที่แตกต่างกันออกไป ต้องวางแผนการเดินทางล่วงหน้าตามตารางช่วงเวลานี้ได้เลยนะคะ
เมืองท่องเที่ยวในญี่ปุ่นช่วงเวลาใบไม้เปลี่ยนสี
ฮอกไกโด – เดือนกันยายน – เดือนตุลาคม
โอซาก้า – กลางเดือนพฤศจิกายน – ต้นเดือนธันวาคม
โตเกียว – กลางเดือนพฤศจิกายน – ต้นเดือนธันวาคม
เกียวโต – กลางเดือนพฤศจิกายน – ต้นเดือนธันวาคม
นิกโก้ – กลางเดือนตุลาคม – ถึงเดือนพฤศจิกายน
คาวากูจิโกะ – ปลายเดือนตุลาคม – ถึงเดือนพฤศจิกายน
ฮิโรชิมา – กลางเดือนพฤศจิกายน – ต้นเดือนธันวาคม
10 อันดับจุดชมใบไม้เปลี่ยนสีญี่ปุ่น 2024
1. สวนอนุสรณ์บัมปาคุ (Expo ’70 Commemorative Park) โอซาก้า
สวนสาธารณะขนาดใหญ่ที่ถือเป็นจุดชมใบไม้เปลี่ยนสีโอซาก้าได้ดีที่สุด ด้านในมีทั้ง
สวนดอกไม้และพืชหลากชนิด สนามกีฬา ออนเซ็น ลานสเก็ตที่เล่นได้ตลอดปี รวมถึงจุดเช็คอินอย่างหอคอยพระอาทิตย์ (Tower of the sun) ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ตัวแทนศิลปะร่วมสมัยของญี่ปุ่น ในมังงะเรื่อง 20th Century Boys เรียกว่ามาที่นี่คือครบทุกกิจกรรมจริงๆค่ะ
ช่วงเวลาใบไม้เปลี่ยนสี : กลางเดือนพฤศจิกายน-ต้นเดือนธันวาคม
วันเวลาทำการ : 09:30 – 17:00 น. ปิดทำการทุกวันพุธและปีใหม่
ค่าเข้าชม : ผู้ใหญ่คนละ 250 เยน / นักเรียนประถมและมัธยมต้นคนละ 70 เยน
การเดินทาง : นั่งรถไฟสาย Osaka Monorail Line มาลงสถานี Bampaku-kinenkoen แล้วเดินต่ออีก 5 นาที
2. ถนนมิโดสุจิ (Midosuji Avenue) โอซาก้า
ถนนขึ้นชื่อด้านแฟชั่นและการละเล่นของคนโอซาก้าที่เริ่มจาก Umeda ไปจนถึง Namba โดยมีระยะทางยาวกว่า 4 กิโลเมตร และรายล้อมไปด้วยต้นแปะก๊วย 800 ต้น ด้วยเสน่ห์ของการอนุรักษ์ธรรมชาติในย่านนี้ ที่กำหนดให้ห้างร้านสูงไม่เกิน 50 เมตร อีกทั้งยังมีประติมากรรมตลอดสองข้างทาง ยิ่งในเดือนตุลาคมของทุกปีจะมีการปิดถนนทำการแสดง ท่ามกลางความงดงามของต้นแปะก๊วย จึงเป็นอีกจุดที่ไม่ควรพลาดชมใบไม้เปลี่ยนสีโอซาก้า
ช่วงเวลาใบไม้เปลี่ยนสี : กลางเดือนพฤศจิกายน-ต้นเดือนธันวาคม
วันเวลาทำการ : ตลอดเวลา
ค่าเข้าชม : ฟรี
การเดินทาง : นั่งรถไฟสถานี Namba Station ไปจนถึงสถานี Umeda บนสาย Osaka Metro Midosuji Line
3. ปราสาทโอซาก้า (Osaka castle) โอซาก้า
หนึ่งในปราสาทที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น โดยปราสาทโอซาก้าได้สร้างขึ้นเมื่อปลายศตวรรษที่ 16 เพื่อเป็นที่พำนักของโทโยโทมิ ฮิเดโยชิ และถูกเผาทำลายในช่วงล่มสลายของตระกูล จึงมีการสร้างขึ้นมาใหม่ เพื่อระลึกถึงช่วงสงครามการรวมประเทศญี่ปุ่น ซึ่งปัจจุบันได้กลายเป็นที่พักผ่อนหย่อนใจของนักท่องเที่ยว ด้วยกลิ่นอายประวัติศาสตร์บวกกับบรรยากาศใบไม้เปลี่ยนสีโอซาก้า บอกเลยว่าคุ้มค่าในการเดินทางแน่นอน
ช่วงเวลาใบไม้เปลี่ยนสี : กลางเดือนพฤศจิกายน-ต้นเดือนธันวาคม
วันเวลาทำการ : เปิดบริการทุกวัน 09:00 – 17:00 น.
ค่าเข้าชม : ผู้ใหญ่ 600 เยน เด็กอายุไม่เกิน 15 ปี เข้าชมฟรี
การเดินทาง :
• รถไฟ Osaka Loop Line ลงสถานี Osakajo Koen station
• รถไฟใต้ดิน Tanimachi Line ลงสถานี Tanimachi Yonchome
• รถไฟใต้ดิน Chuo Line ลงสถานี Tanimachi Yonchome
4. อุทยานแห่งชาติไดเซ็ทซึซัง (Daisetsuzan National Park) ฮอกไกโด
คนญี่ปุ่นเรียกกันว่าอุทยานแห่งเทพเจ้า ที่มาจากความยิ่งใหญ่ของการรายล้อมไปด้วย
เทือกเขา สัมผัสความอลังการของเทือกเขาอะซาฮิดาเกะ (Asahidake) ด้วยความสูงกว่า 2,290 เมตร ภายในอุทยานจะมีทางเดินให้ชมธรรมชาติของไม้ป่า ปล่องภูเขาไฟที่ยังไม่ดับบึงน้ำจืดจากหิมะละลาย และยังชมใบไม้เปลี่ยนสีญี่ปุ่นก่อนใครได้ที่นี่อีกด้วย
ช่วงเวลาใบไม้เปลี่ยนสี : เดือนกันยายน-พฤศจิกายน
การเดินทาง : นั่งรถบัสจากสถานีฮาซาฮีคาว่าและนั่งกระเช้าไฟฟ้าขึ้นสู่ยอดเขา หรือ นั่งรถไฟ JR Shimokinboku ลงที่สถานี Kamikawa แล้วขึ้นรถประจำทางฮอกไกโดสาย Sounkyo Kamikawa ลงที่ Sounkyo แล้วเดินต่ออีก 5 นาที
5. ทะเลสาบคาวากูจิโกะ (Lake Kawaguchiko) โตเกียว
หนึ่งในทะเลสาบรอบภูเขาไฟฟูจิ ที่นักท่องเที่ยวต่างหลงใหลในวิวภูเขาไฟฟูจิสะท้อน
ทะเลสาบ และใบไม้เปลี่ยนสี โดยบริเวณรอบๆ ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจอีกมากมาย ทั้ง พิพิธภัณฑ์ น้ำพุร้อน ร้านคุกกี้ชื่อดัง ร้านขายของฝากญี่ปุ่น รวมถึงกิจกรรมกลางแจ้งให้ได้เลือกแบบจุใจ
ช่วงเวลาใบไม้เปลี่ยนสี : กลางเดือนพฤศจิกายน-ต้นเดือนธันวาคม
วันเวลาทำการ : สามารถเดินเที่ยวชมได้ทั้งวัน
ค่าเข้าชม : ฟรี
การเดินทาง : รถไฟสถานี JR ชินจูกุ มายังสถานี JR โอสึกิ และเปลี่ยนสายสถานีฟูจิคิวโค มุ่งหน้าสู่สถานีคาวากุจิโกะ หรือขึ้นรถบัสทางด่วนชินจูกุ มายังสถานีคาวากุจิโกะ
6. วัดคิโยมิซุ (วัดน้ำใส Kiyomizu-dera Temple) เกียวโต
หนึ่งในพิกัดชมใบไม้เปลี่ยนสีญี่ปุ่นที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวมากที่สุด ทั้งยังได้รับการ
ขึ้นทะเบียนมรดกโลกจาก UNESCO ด้วยเอกลักษณ์วัดโบราณที่ตั้งอยู่บนเนินเขา และมี
สายน้ำบริสุทธิ์ทั้ง 3 จากน้ำตกโอโตวะไหลผ่าน ซึ่งถือเป็นสายน้ำที่ให้พรด้านการศึกษา ความรักที่สมหวัง และสุขภาพ คนญี่ปุ่นจึงมักมาดื่มน้ำเพื่อความเป็นสิริมงคล
ช่วงเวลาใบไม้เปลี่ยนสี : กลางเดือนพฤศจิกายน-ต้นเดือนธันวาคม
วันเวลาทำการ : เปิดบริการทุกวัน 06:00 – 18:00 น.
ค่าเข้าชม : ผู้ใหญ่คนละ 300 เยน เด็ก 200 เยน
การเดินทาง : นั่งรถไฟสาย Keihan ลงสถานี Kiyomizu Gojo
7. สวนริคุงิเอน (Rikugien Gardens) โตเกียว
สวนญี่ปุ่นใจกลางโตเกียว ที่ถูกยกให้เป็นสมบัติของชาติ รวมถึงเป็นสถานทีชมใบไม้เปลี่ยนสีญี่ปุ่นสุดฮิต ด้วยการจัดสวนในรูปแบบ 6 ส่วนตามสมัยเอโดะ โดยมีทางเดินรอบสวนเชื่อมถึงกัน พร้อมทั้งจำลองบ่อน้ำและภูเขาตลอดสวน ให้นักท่องเที่ยวได้เสพบรรยากาศสงบๆ ที่เดินทั้งวันก็ไม่เบื่ออย่างแน่นอน
ช่วงเวลาใบไม้เปลี่ยนสี : กลางเดือนพฤศจิกายน-ต้นเดือนธันวาคม
วันเวลาทำการ : เปิดบริการทุกวัน 9:00 – 17:00 น.
ค่าเข้าชม : ผู้ใหญ่ 300 เยน ผู้สูงอายุ 65 ปีขึ้นไป 150 เยน เด็กนักเรียนระดับประถมเข้าชมฟรี
การเดินทาง : รถไฟสายยามาโนะเตะ ลงสถานีสถานีโคมาโกเมะ
8. น้ำตกเคงอน (Kegon waterfall) นิกโก้
มารับความสดชื่นของน้ำตกทรงพลังที่สูงถึง 97 เมตร ที่ไหลมาจากทะเลสาบซูเซ็นจิ พร้อมทั้งชมดอกกุหลาบพันปี ใบไม้รอบๆ ต่างพากันเปลี่ยนสี ยิ่งในช่วงเช้ายังมีโอกาสที่จะได้พบกับสายรุ้งสาดผ่านสายน้ำได้บ่อยๆ เรียกว่าเป็นความผสมผสานบรรยากาศ ของใบไม้เปลี่ยนสีญี่ปุ่นแบบลงตัวสุดๆ
ช่วงเวลาใบไม้เปลี่ยนสี : กลางเดือนตุลาคม-เดือนพฤศจิกายน
วันเวลาทำการ : เปิดบริการทุกวัน 8.00 – 17.00 น.
ค่าเข้าชม : เข้าชมบริเวณน้ำตกฟรี
ชมวิวจากระเบียงสังเกตการณ์ สำหรับผู้ใหญ่ 550 เยน / นักเรียนชั้นประถม 330 เยน / เด็กฟรี
การเดินทาง : รถไฟ Jr Nikko Line และลงที่สถานี Nikko
รถบัส Tobu Bus ที่มุ่งหน้าไปยัง Chuzenji Onsen ลงป้าย Chuzenji Onsen
9. อุโมงค์ใบไม้แดงโมมิจิ ไคโร (Momiji Kairo) คาวากูจิโกะ
หากนึกถึงใบไม้เปลี่ยนสีญี่ปุ่นจะขาดโมมิจิ ไคโรหรืออุโมงค์ใบเมเปิ้ลไปไม่ได้ นักท่องเที่ยวสามารถเพลิดเพลินกับใบเมเปิ้ลเปลี่ยนสีแดง ส้ม เหลือง ร่วงปกคลุมผืนน้ำทะเลสาบคาวากูจิโกะ ตลอดทางเดินเลียบแม่น้ำ จนลักษณะเหมือนอุโมงค์ เป็นมุมสุดฮิต ที่ถ่ายรูปเช็กอินได้แบบไม่อายใครกันเลยค่ะ
ช่วงเวลาใบไม้เปลี่ยนสี : ปลายเดือนตุลาคม-เดือนพฤศจิกายน
วันเวลาทำการ : ตลอดเวลา
ค่าเข้าชม : เข้าชมฟรี
การเดินทาง : นั่งรถไฟจากโตเกียวลงที่สถานี Kawaguchiko และต่อ Retro Bus ลงที่ป้าย Itchiku Kubota Art Museum
พิกัด : http://bitly.ws/BV5W
10. สวนสาธารณะโมมิจิดานิ (Momijidani park) ฮิโรชิมา
สวนสาธารณะที่ขึ้นชื่อเรื่องวิวใบไม้เปลี่ยนสีญี่ปุ่น จนถูกเรียกว่าเป็นหุบเขาใบไม้แดง โดยทางเดินรอบๆ จะรายล้อมด้วยวัดโบราณ ศาลาหกเหลี่ยม รวมถึงวัดโทเซ็นจิที่เป็นที่ตั้งของต้นบ๊วยการิว 300 ปี และต้นเมเปิ้ลนานาชนิด ที่ปัจจุบันมีมากกว่า 200 ต้นอีกด้วยค่ะ
ช่วงเวลาใบไม้เปลี่ยนสี : กลางเดือนพฤศจิกายน – ปลายเดือนพฤศจิกายน
วันเวลาทำการ : ตลอดเวลา
ค่าเข้าชม : เข้าชมฟรี
การเดินทาง : รถบัสจากสถานีอิวาคุนิ สายหลัก JR ซันโย ต่อรถบัสไปทางสะพานคินไตเคียว ลงที่ป้าย คินไตเคียว และเดินจากป้าย 15 นาที