จากสถานการณ์การระบาดของโรคโควิด 19 ซึ่งได้แพร่กระจายไปทั่วโลกิและส่งผลกระทบในวงกว้างมาเป็นเวลานานแล้วนะคะ โดยในประเทศไทยนั้น กระทรวงสาธารณสุขได้มีนโยบายการให้ประชาชนได้รับวัคซีนโควิด 19 เพื่อลดความรุนแรงของการเจ็บป่วย และเสียชีวิตมาโดยตลอดนะคะ แต่ยังมีประชากรบางกลุ่มนะคะ ที่มีภาวะภูมิคุ้มกันต่ำ หรือได้รับวัคซีนแล้วแต่ร่างกายไม่สามารถสร้างภูมิคุ้มกันได้สูงเพียงพอ ต่อการป้องกันโรค ได้แก่ กลุ่มภูมิคุ้มกันบกพร่อง กลุ่มผู้ป่วยฟอกไต กลุ่มผู้ป่วยโรคมะเร็ง เป็นต้นนะคะ ดังนั้น จึงได้มีการพัฒนาแอนติบอดีออกฤทธิ์ยาว หรือ Long Acting Antibodies ( LAAB ) เพื่อใช้สร้างภูมิคุ้มกัน ให้กับกลุ่มประชากรดังกล่าวนั่นเองค่ะ

 

 

บทความนี้ จะมานำเสนอเรื่องราวเกี่ยวกับ แอนติบอดีออกฤทธิ์ยาว หรือ Long Acting Antibodies ( LAAB ) กันนะคะ ตามมาดูไปพร้อมกันเลยดีกว่าค่ะ

Long Acting Antibody หรือ LAAB

คือ แอนติบอดีออกฤทธิ์ยาว ที่ประกอบด้วยแอนติบอดีสองชนิด ได้แก่ Tixagevimab และ Cilgavimab ซึ่งพัฒนามาจากบีเซลล์ ของผู้ที่เคยติดเชื้อไวรัสโควิด 19 และได้พัฒนาเพิ่มเติม เพื่อขยายระยะเวลาครึ่งชีวิตให้ยาวนานกว่าแอนติบอดีทั่วไปอย่างน้อย 3 เท่า โดยมีหลักฐานยืนยันว่า สามารถออกฤทธิ์ลบล้างเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ได้ทั้งต่อสายพันธุ์ดั้งเดิม และสายพันธุ์กลายพันธุ์ต่างๆอีกด้วยนะคะ

 

 

จากข้อมูลการศึกษาระยะที่สามในต่างประเทศพบว่า LAAB มีประสิทธิภาพสูงในการป้องกันการติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 แบบมีอาการ ในผู้ที่มีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อสูง หรือผู้ที่อาจมีการตอบสนองต่อวัคซีนได้ ไม่เพียงพอเนื่องจากภาวะ หรือโรคร่วมต่างๆ เช่น ภาวะภูมิคุ้มกันบกพร่อง หรือการได้รับยากดภูมิคุ้มกัน โดยสามารถป้องกันการติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 แบบมีอาการได้ถึงร้อยละ 77 เลยนะคะ หลังจากได้ยาหนึ่งโดสไปแล้ว 3 เดือน และร้อยละ 83 หลังจากได้ยาแล้ว 6 เดือน โดยพบรายงานอาการไม่พึงประสงค์ จากการศึกษาระยะที่สามเพียงเล็กน้อยค่ะ ซึ่งอาการที่พบบ่อยที่สุด คือมีปฏิกิริยาบริเวณที่ฉีด ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นระดับน้อยถึงปานกลางเท่านั้นค่ะ

 

 

LAAB ได้รับการขึ้นทะเบียนตำรับยาในสหภาพยุโรป เพื่อใช้สำหรับป้องกันก่อนการสัมผัสเชื้อไวรัส โคโรนา 2019 และได้รับการขึ้นทะเบียน ให้นำมาใช้ในภาวะฉุกเฉินในประเทศสหรัฐอเมริกา และหลายประเทศทั่วโลก

สำหรับประเทศไทยเรานั้น สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ได้อนุมัติขึ้นทะเบียนยา ภายใต้การอนุญาตแบบมีเงื่อนไขในสถานการณ์ฉุกเฉิน เมื่อวันที่ 27 มิถุนายน 2565 สำหรับใช้ เพื่อการป้องกันก่อนการสัมผัสเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ในกลุ่มผู้ใหญ่และวัยรุ่นที่มีอายุตั้งแต่ 12 ปีขึ้นไป และมีน้ำหนักตัวมากกว่า 40 กิโลกรัม ทั้งผู้ที่เคยได้รับวัคซีน และไม่เคยได้รับวัคซีนมาก่อน

 

 

ขนาดต่อโดส : 300 มก. (Tixagevimab 150 มก. และ Cilgavimab 150 มก.) ใน 1 กล่อง บรรจุขวดแก้ว 2 ขวด ซึ่งประกอบด้วย

• ขวดฝาสีเทาเข้ม: บรรจุยา Tixagevimab ขนาด 150 มก. ในปริมาตร 1.5 มล. (100 มก./1 มล.)

• ขวดฝาสีขาว: บรรจุยา Cilgavimab ขนาด 150 มก. ในปริมาตร 1.5 มล. (100 มก./1 มล.)

 

อายุที่สามารถให้ได้

 

 

ผู้ที่มีอายุมากกว่า 12 ปีขึ้นไป และมีน้ำหนักตัวมากกว่า 40 กิโลกรัม โดยให้พิจารณาฉีดให้กับผู้ที่ได้รับวัคซีนโควิด 19 ครบตามเกณฑ์ (3 เข็ม)แล้วเท่านั้นค่ะ

กำหนดการให้ Long Acting Antibody (LAAB)

– กำหนดให้ LAAB จำนวน 1 ครั้ง ครั้งละ 2 เข็ม โดยใช้เข็มขนาด 23 – 25G ความยาว 1 – 1.5 นิ้ว

– แนะนำให้แยกฉีด Tixagevimab และ Cilgavimab เข้ากล้ามเนื้อบริเวณสะโพก (Gluteal muscle) ชนิดละข้าง ข้างละ 1.5 มล.

– ให้เฝ้าระวังอาการไม่พึงประสงค์หลังการฉีดเป็นเวลาอย่างน้อย 30 นาที

 

ผลข้างเคียงของ LAAB

 

 

1. ปฏิกิริยาภูมิไวเกิน รวมถึงอาการแพ้อย่างรุนแรง (Anaphylaxis) แต่พบไม่บ่อย

2. อาการผิดปกติบริเวณที่ฉีดยา บวม แดง ปวด

3. มีผื่น หรือ ลมพิษหลังฉีดยาซึ่งมาจากการที่มีภูมิไวเกิน

4. ไม่ควรใช้ในสตรีตั้งครรภ์ หรือ สตรีให้นมบุตร

ขอบคุณที่มา : https://www.chulabhornchannel.com/news-activities/2022/08/แนวทางการให้-long-acting-antibody-laab-ในประเทศ