บุหรี่ไฟฟ้าเป็นอุปกรณ์สูบบุหรี่ชนิดหนึ่ง ซึ่งใช้กลไกไฟฟ้าทำให้เกิดความร้อนและไอน้ำที่ประกอบไปด้วยสารเคมีต่าง ๆ โดยไม่มีควันจากกระบวนการเผาไหม้เหมือนบุหรี่ปกติทั่วไป ประกอบด้วยส่วนประกอบหลัก 3 ส่วน คือ แบตเตอรี่  ตัวทำให้เกิดไอและความร้อน (Atomizer) และน้ำยา ถ้ากล่าวถึงเฉพาะส่วนของน้ำยาที่จะถูกทำให้เป็นไอและเข้าสู่ร่างกายของผู้สูบจะประกอบด้วยสารประกอบหลัก ๆ คือ

 

 

– นิโคติน ซึ่งเป็นสารเสพติดชนิดหนึ่งที่พบได้ในทั้งบุหรี่ไฟฟ้าและบุหรี่ปกติทั่วไป เป็นสารที่ทำให้ร่างกายเสพติดการสูบบุหรี่

– โพรไพลีนไกลคอล เป็นส่วนประกอบในสารสำหรับการทำให้เกิดไอ

– กลีเซอรีน เป็นสารเพิ่มความชื้นที่จะผสมผสานกับสารโพรไพลีนไกลคอล  องค์การอาหารและยา (FDA) ยืนยันถึงความปลอดภัยว่าใช้ได้ทั้งในอาหารและยา แต่ยังไม่ได้รับการยืนยันว่าเมื่อเปลี่ยนรูปแบบเป็นไอที่สูบหรือสูดแล้วเกิดผลกระทบอย่างไรต่อร่างกาย เช่นเดียวกันกับโพรไพลีนไกลคอล

– สารแต่งกลิ่นและรส เป็นสารเคมีที่ใช้กับอาหารทั่ว ๆ ไป ซึ่งมีความปลอดภัยเมื่อรับประทานเข้าสู่ร่างกาย แต่ยังไม่ได้รับการยืนยันว่าเมื่อเปลี่ยนรูปแบบเป็นไอที่สูบหรือสูดแล้วเกิดผลกระทบอย่างไรต่อร่างกาย

และล่าสุดยังตรวจพบ “สารแอมโมเนีย” ในบุหรี่ไฟฟ้า อีกด้วยนะคะ แพทย์เตือนยิ่งสูบยิ่งเสี่ยง หลอดลมอักเสบค่ะ

 

 

นายแพทย์นิติ เหตานุรักษ์ รองอธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า จากความเข้าใจผิดที่ว่าการสูบบุหรี่ไฟฟ้านั้นปลอดภัย ไม่ส่งกลิ่นเหม็น สามารถสูบในที่ห้ามสูบได้ แต่ความจริงแล้วบุหรี่ไฟฟ้ามีอันตรายไม่ต่างจากมวนบุหรี่แบบเดิม โดยปัจจุบันมีผลงานวิจัยจำนวนมากที่ตรวจสอบพบ สารแอมโมเนีย ในบุหรี่ไฟฟ้า ซึ่งเกิดจากความร้อนที่ไม่มีการเผาไหม้ (Heated Tobacco Products)

เมื่อสัมผัสหรือสูดดมสารแอมโมเนียเข้าสู่ร่างกาย จะก่อให้เกิดการระคายเคืองเนื้อเยื่อ ทำให้แสบตา แสบจมูก ทำให้เกิดหลอดลมอักเสบในอนาคตได้ อีกทั้งสารแอมโมเนียยังเป็นตัวช่วยทำให้การดูดซึมสารนิโคตินเข้าสู่สมองเร็วขึ้น เพิ่มฤทธิ์เสพติดนิโคตินได้มากขึ้น

 

 

การสูบบุหรี่ไฟฟ้า จึงทำให้สุขภาพของผู้สูบและคนรอบข้างแย่ลงได้ ไม่ต่างจากบุหรี่แบบมวน โดยเฉพาะผู้ที่มีปัญหาสุขภาพอยู่แล้ว เมื่อได้รับสารอันตรายต่างๆจากบุหรี่ไฟฟ้าเข้าไปอีก จะยิ่งทำให้สุขภาพและอาการของโรคแย่มากขึ้น