ทั่วโลกกำลังติดตามเรื่องราวของเรือดำน้ำไททันที่หายไปและปฏิบัติการกู้ภัยที่แข่งกับเวลา แต่ความหวังในการช่วยชีวิตผู้โดยสารทั้ง 5 คน จากระดับความลึกเกือบ 4 กิโลเมตรใต้ผิวน้ำริบหรี่ลงไปเรื่อยๆ พร้อมๆกับอากาศในเรือที่ค่อยๆหมดลงไปนะคะ

 

เรือดำน้ำไททัน พร้อมเรือแม่ โพลาร์ ปรินซ์ (Polar Prince) ได้ออกเดินทางจากเมืองเซนต์จอห์น รัฐนิวฟันด์แลนด์ ประเทศแคนาดา มีกำหนดเดินทางในระยะทาง 400 ไมล์ทะเลไปยังซากเรือไททานิก ซึ่งตั้งอยู่นอกชายฝั่งเคปค้อดในรัฐแมสซาชูเซตส์ของสหรัฐประมาณ 900 ไมล์ (1,450 กิโลเมตร)

 

 

มีผู้โดยสารทั้ง 5 รายได้แก่

 

1. นายฮามิช ฮาร์ดิง (Hamish Harding) นักผจญภัยชาวอังกฤษวัย 58 ปีที่เคยมีประสบการณ์เดินทางไปอวกาศและขั้วโลกใต้หลายครั้ง

2. นายชาซาดา ดาวู้ด (Shahzada Dawood) นักธุรกิจชาวอังกฤษวัย 48 ปี ซึ่งเป็นสมาชิกของหนึ่งในตระกูลที่ร่ำรวยที่สุดของปากีสถานและเป็นผู้สนับสนุนมูลนิธิ 2 แห่งที่ก่อตั้งโดยสมเด็จพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3 แห่งราชวงศ์อังกฤษ

3. นายซูเลมาน ดาวู้ด (Suleman Dawood) บุตรชายวัย 19 ปีของนายชาซาดา ดาวู้ด

4. นายปอล อองรี นาร์โฌเลต์ (Paul-Henry Nargeolet) อดีตนักดำน้ำกองทัพเรือฝรั่งเศสวัย 77 ปี ซึ่งเป็นผู้ที่มีประสบการณ์สำรวจซากเรือไททานิกมากกว่านักสำรวจคนอื่น ๆ และเป็นหนึ่งในคณะสำรวจซากเรือไททานิกกลุ่มแรกในปี 2530

5. นายสต็อกตัน รัช (Stockton Rush) ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัทโอเชียนเกต วัย 61 ปี ทำหน้าที่กัปตัน ซึ่งโอเชียนเกตเป็นผู้ทำทริปเที่ยวชมซากเรือไททานิกครั้งนี้

 

 

17.00 น. เวลาในไทย กำหนดเส้นตายคร่าวๆ ว่าอากาศในเรือดำน้ำจะหมด ตามการประมาณการของ US Coast Guard ที่เรือมีอากาศเพียงพอสำหรับ 96 ชั่วโมงนับจากเวลาที่ปิดสนิท ตามที่ระบุไว้ในสเป็คเรือ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสภาพของเรือและปัจจัยอื่นๆ เช่น เรือดำน้ำยังคงมีกำลังในความลึกที่น้ำเย็นจัดระดับนี้หรือไม่ ในเวลานี้ก็คงหวังแต่เพียงแค่ปาฏิหาริย์จริงๆเลยนะคะ แต่ในความเป็นจริงแล้วคงต้องทำใจเลยค่ะ เพราะปริมาณออกซิเจนได้หมดลงไปแล้ว ก็คงต้องรออัพเดทข่าวสารกันต่อไปนะคะ ขอเป็นกำลังใจให้กับทุกๆฝ่ายที่มีส่วนในปฏิบัติการช่วยเหลือค้นหา เรือดำน้ำไททันในครั้งนี้ค่ะ