เมื่อวันที่ 22 เมษายนที่ผ่านมา “ราชกิจจานุเบกษา” ออกประกาศสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย เรื่อง หลักเกณฑ์การตรวจค้นของเหลว เจล สเปรย์ที่จะนำขึ้นบนอากาศยาน หรือนำเข้าไปในเขตหวงห้ามของสนามบินสาธารณะ พ.ศ. ๒๕๖๘ โดยประกาศฉบับดังกล่าว มีผลใช้บังคับเมื่อวันที่ 22 เมษายน เป็นต้นไป

 

 

อาศัยอำนาจตามข้อ ๗ (๙) และข้อ ๑๓ (๒) ของข้อกำหนดของสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย ฉบับที่ ๒๕ ว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการในการตรวจค้นเพื่อการรักษาความปลอดภัยในการดำเนินงานสนามบินสาธารณะ ที่กำหนดให้ผู้ดำเนินการสนามบินสาธารณะมีอำนาจหน้าที่ตรวจคันสิ่งใด ๆ ที่ผู้โดยสาร ผู้ประจำหน้าที่ หรือผู้ปฏิบัติงานจะนำขึ้นบนอากาศยาน โดยของเหลว เจล สเปรย์ที่บุคคลจะนำขึ้นบนอากาศยานต้องผ่านการตรวจค้นทั้งหมดตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย

 

 

 

 

ประกาศกำหนด ผู้อำนวยการสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย จึงออกประกาศไว้ ดังต่อไปนี้

 

ข้อ ๑ ประกาศนี้เรียกว่า “ประกาศสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย เรื่อง หลักเกณฑ์การตรวจค้นของเหลว เจล สเปรย์ที่จะนำขึ้นบนอากาศยานหรือนำเข้าไปในเขตหวงห้ามของสนามบินสาธารณะ พ.ศ. ๒๕๖๘”

 

ข้อ ๒ ประกาศนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันประกาศเป็นต้นไป

 

ข้อ ๓ ให้ยกเลิกประกาศสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย เรื่อง หลักเกณฑ์การตรวจค้นของเหลว เจล สเปรย์ที่จะนำขึ้นบนห้องโดยสารอากาศยานหรือนำเข้าไปในเขตหวงห้ามของสนามบินสาธารณะ พ.ศ. ๒๕๖๒ ประกาศ ณ วันที่ ๒๓ เมษายน พ.ศ. ๒๕๖๒

 

ข้อ ๔ ในประกาศนี้ ” ของเหลว เจล สเปรย์ ” หมายความรวมถึง ของเหลวในรูปแบบต่าง ๆ เช่น น้ำ เครื่องดื่ม ซุป น้ำเชื่อม แยม สตูว์ ซอส น้ำพริก หรืออาหารอย่างอื่นที่อยู่ในซอส หรือที่มีส่วนประกอบเป็นของเหลวในบริมาณมาก ตลอดจน ครีม โลชั่น เครื่องสำอาง น้ำมัน น้ำหอม หรือเจลในรูปแบบต่าง ๆเช่น ยา ยาสีฟัน อาหาร ยาสระผม เจลอาบน้ำ หรือวัตถุหรือสารที่บรรจุในบรรจุภัณฑ์ที่มีแรงดันและต้องฉีดพ่นเพื่อนำออกมาใช้ เช่น สเปรย์ โฟม รวมถึงวัตถุหรือสารที่มีส่วนผสมของของแข็งและของเหลว เช่น มาสคารา ลิปสติกหรือ ลิปบาล์ม

 

ข้อ ๕ ให้ผู้ได้รับใบรับรองการดำเนินงานสนามบินสาธารณะตรวจค้นของเหลว เจล สเปรย์ ที่จะนำขึ้นบนอากาศยานหรือนำเข้าไปในเขตหวงห้ามของสนามบินสาธารณะ ตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขที่กำหนดไว้ในประกาศนี้

 

ข้อ ๖ ของเหลว เจล สเปรย์ ที่ผู้โดยสารจะนำขึ้นบนอากาศยานหรือนำเข้าไปในเขตหวงห้ามของสนามบินสาธารณะต้องเป็นไปตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไข ดังต่อไปนี้

(๑) ของเหลว เจล สเปรย์ แต่ละชิ้นต้องอยู่ในบรรจุภัณฑ์ที่ปิดสนิทและมีปริมาตรไม่เกิน ๑๐๐ มิลลิลิตร หรือในหน่วยวัดปริมาตรอย่างอื่นที่เท่ากัน

(๒) บรรจุภัณฑ์ที่จะใช้บรรจุของเหลว เจล สเปรย์ ตาม(๑) ต้องมีปริมาตรที่รองรับของเหลวเจล สเปรย์ได้ไม่เกิน ๑๐๐ มิลลิลิตร และต้องมีข้อความระบุปริมาตรของบรรจุภัณฑ์ ไม่ว่าบรรรรจุภัณฑ์นั้นจะบรรจุของเหลว เจล สเปรย์ไว้เพียงบางส่วนก็ตาม

(๓) ผู้โดยสารสามารถนำของเหลว เจล สเปรย์ ตาม (๑) ขึ้นบนอากาศยานหรือนำเข้าไปในเขตหวงห้ามของสนามบินสาธารณะได้มากกว่า ๑ ชิ้น แต่ต้องมีปริมาตรรวมกันสูงสุดไม่เกินคนละ ๑,๐๐๐ มิลลิลิตร ในกรณีตาม (๓) ผู้ได้รับใบรับรองการดำเนินงานสนามบินสาธารณะอาจกำหนดมาตรการเพิ่มเติมให้ผู้โดยสารนำของเหลว เจล สเปรย์ ใส่รวมในถุงพลาสติกใสที่สามารถปิดผนึกได้ (Transparent Re-Sealable Plastic Bag) หรือในบรรจุภัณฑ์อื่นที่มีลักษณะเดียวกัน และต้องปิดผนึกปากถุงให้เรียบร้อยโดยให้สามารถนำไปได้คนละ ๑ ถุง โดยไม่นับรวมอยู่ในจำนวนสัมภาระติดตัวที่ผู้ดำเนินการเดินอากาศแต่ละรายอนุญาตให้นำขึ้นบนอากาศยานได้

 

ข้อ ๗ ผู้ได้รับใบรับรองการดำเนินงานสนามบินสาธารณะต้องกำหนดมาตรการตรวจค้นของเหลวเจล สเปรย์ ที่จะนำขึ้นบนอากาศยานหรือนำเข้าไปในเขตหวงห้ามของสนามบินสาธารณะตาม ข้อ ๖โดยแยกบรรจุภัณฑ์หรือถุงพลาสติกใสออกจากสัมภาระติดตัวอื่น ๆ ที่จะนำขึ้นบนอากาศยานหรือนำเข้าไปในเขตหวงห้ามของสนามบินสาธารณะ เพื่อให้พนักงานตรวจค้นทำการตรวจค้นของเหลว เจล สเปรย์ ณ บริเวณจุดตรวจค้นเพื่อการรักษาความปลอดภัย (Security Screening Point) เป็นการเฉพาะแยกต่างหากจากสัมภาระติดตัวอย่างอื่น เว้นแต่มีอุปกรณ์ที่ใช้ในการตรวจค้น เช่น X-ray Screening หรือวิธีการอื่นใดที่สามารถตรวจพบของเหลว เจล สเปรย์ ได้

 

ข้อ ๘ ความในข้อ ๖ ไม่นำมาใช้บังคับในกรณี ดังต่อไปนี้

(๑) ของเหลว เจล สเปรย์ ประเภทยาให้มีใบรับรองแพทย์ ฉลาก หรือเอกสารกำกับยาที่ระบุชื่อผู้โดยสารซึ่งมีความจำเป็นต้องใช้ยานั้น เว้นแต่เป็นยาสามัญประจำบ้านตามประกาศกระทรวงสาธารณสุขรวมถึงอาหารหรือนมสำหรับเด็กทารก อาหารที่ต้องพกพาตามข้อกำหนดทางการแพทย์หรือเพื่อวัตถุประสงค์ทางโภชนาการในปริมาณที่เหมาะสมกับระยะเวลาเดินทางในแต่ละเที่ยวบิน ทั้งนี้ผู้โดยสารต้องแสดงให้พนักงานตรวจค้น ณ บริเวณจุดตรวจค้นเพื่อการรักษาความปลอดภัย (Securty Screening Point) เพื่อทำการตรวจสอบ

(๒) ของเหลว เจล สเปรย์ ที่ผู้ประจำหน้าที่หรือผู้ปฏิบัติงานบนอากาศยานจะน้ำขึ้นบนอากาศยานหรือที่บุคคลนำเข้าไปในเขตหวงห้ามของสนามบินสาธารณะนำไปใช้ส่วนตัวในปริมาณเท่าที่จำเป็นในระหว่างการปฏิบัติหน้าที่และเหมาะสมกับระยะเวลาการปฏิบัติงานจริง (Operating Hours) ทั้งนี้ บุคคลดังกล่าวต้องแสดงให้พนักงานตรวจค้น ณ บริเวณจุดตรวจค้นเพื่อการรักษาความปลอดภัย(Security Screening Point) เพื่อทำการตรวจสอบ

(๓) ของเหลว เจล สเปรย์ ที่ผู้ปฏิบัติงานในสนามบิน ผู้ได้รับอนุญาตให้เข้าไปในเขตหวงห้ามหรือผู้ปฏิบัติงานในกรณีฉุกเฉินนำเข้าไปใช้ในการปฏิบัติหน้าที่ ทั้งนี้ บุคคลดังกล่าวต้องแสดงให้พนักงานตรวจค้น ณ บริเวณจุดตรวจค้นเพื่อการรักษาความปลอดภัย (Secuity Screening Point) เพื่อทำการตรวจสอบ

(๔) ของเหลว เจล สเปรย์ ซึ่งผู้โดยสารซื้อจากร้านค้าปลอดอากร (Duty Free Shop) ภายในสนามบินหรือบนห้องโดยสารอากาศยาน แต่จะต้องบรรจุไว้ในถุงพลาสติกที่สามารถบ่งชี้ร่องรอยการแกะ หรือการเปิดปากถุง (Securty Tampered-Evident Bags: STEBS) โดยต้องปิดผนึก (Sealed) เรียบร้อย และไม่มีร่องรอยการแกะหรือการเปิดปากถุงหลังจากซื้อ และมีหลักฐานแสดงว่า ได้ซื้อในวันที่ผู้โดยสารเดินทาง ทั้งนี้ ผู้โดยสารเปลี่ยนลำ (Transfer Passenger) หรือผู้โดยสารผ่าน(Transit Passenger) ต้องแสดงให้พนักงานตรวจค้น ณ บริเวณจุดตรวจค้นเพื่อการรักษาความปลอดภัย(Security Screening Point) เพื่อทําการตรวจสอบเพื่อประโยชน์ของผู้โดยสาร ก่อนซื้อสินค้าปลอดอากร ผู้โดยสารต้องตรวจสอบข้อมูลจากร้านค้าปลอดอากรภายในสนามบินหรือห้องโดยสารอากาศยานเกี่ยวกับกฎเกณฑ์การปฏิบัติต่อของเหลว เจล สเปรย์ ณ สนามบินปลายทางของการเดินทางและสนามบินทุกแห่งที่ผู้โดยสารต้องลงจากอากาศยานเพื่อแวะพักหรือเปลี่ยนลำอากาศยาน

 

ข้อ ๙ ของที่มีส่วนประกอบเป็นของเหลว เจล สเปรย์ ในปริมาณมากที่ผู้โดยสารนำติดตัวมาเป็นสัมภาระหรือซื้อมาจากร้านค้าภายนอกสนามบินหรือร้านค้าภายในสนามบินก่อนเข้าจุดตรวจค้นเพื่อการรักษาความปลอดภัย (Security Screening Point) ผู้โดยสารต้องส่งมอบให้ผู้ดำเนินการเดินอากาศเพื่อจัดเก็บเป็นสัมภาระลงทะเบียนเท่านั้น

 

ข้อ ๑๐ ภายใต้การประเมินความเสี่ยงด้านการรักษาความปลอดภัยการบินพลเรือนของผู้ได้รับใบรับรองการดำเนินงานสนามบินสาธารณะ ผู้ได้รับรับรองการดำเนินงานสนามบินสาธาธารณะอาจปรับเพิ่มความเข้มงวดของหลักเกณฑ์และวิธีการตามข้อ ๖ ข้อ ๗ หรือข้อ ๘ ให้สอดคล้องกับระดับภัยคุกคามได้

 

ข้อ ๑๑ ให้ผู้ได้รับใบรับรองการดำเนินงานสนามบินสาธารณะจัดให้มีการประชาสัมพันธ์การนำของเหลว เจล สเปรย์ขึ้นบนอากาศยานหรือเข้าเขตหวงห้ามของสนามบินสาธารณะให้กับผู้โดยสาร ผู้ประจำหน้าที่ ผู้ปฏิบัติงานบนอากาศยาน เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานในสนามบิน ผู้ที่ได้รับอนุญาตให้เข้าไปในเขตหวงห้าม รวมถึงบุคคลใด ๆ ทราบ ณ บริเวณที่เห็นได้ชัดเจนภายในอาคารผู้โดยสาร เช่น จุดแสดงตนเพื่อรับบัตรโดยสาร จุดตรวจค้นเพื่อการรักษาความปลดภัย รวมทั้งช่องทางอื่นใดเพื่อให้ทราบล่วงหน้าก่อนเข้าเขตหวงห้ามของสนามบินสาธารณะ